Blog

สมาคมนักประดิษฐ์ฯ พร้อมร่วมมือ ก.เกษตรฯ ปั้นสตาร์ทอัพเกษตรกรรุ่นใหม่

นายกนักประดิษฐ์ฯ ควงกรรมการและทูตของสมาคมฯ เข้าหารือและแสดงความยินดีกับ ปธ.ที่ปรึกษาคณะกรรมการสมาคมฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อหาแนวทางนำนวัตกรรมมาใช้ในภาคการเกษตรช่วยสนับสนุน Young Smart Farmer 

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ กล่าวว่า การพบปะกับที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ ได้รับคำแนะนำให้ส่งเสริม young smart farmer เพื่อนักประดิษฐ์ พัฒนานำนวัตกรรมการเกษตรและอาหาร มาปรับใช้ในภาคการเกษตร เพราะประเทศไทยเป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายสำคัญของโลก รวมทั้งนวัตกรรมการเก็บรักษาขนม ให้มีอายุอยู่ได้นาน เรายังมีพืชผักผลไม้ ตอนปลูกถนอมเหมือนไข่ในหิน แต่ตอนเก็บเกี่ยว กลับไม่มีสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมเพื่อถนอม พืชผักผลไม้ ให้สามารถเดินทางขนส่งให้ถึงผู้บริโภค ให้สดเหมือนเก็บจากต้นทาง

ทั้งนี้ ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ ได้ฝากไปยัง เยาวชน ลูกหลานชาวเกษตรกร รัฐบาลจะเติมเงินส่วนที่ลงทุนขาดหายไป อันดับแรก รัฐบาลทำงานโดยจะเพิ่มกำไรให้ อีก 40% โดยจะเชื่อมโยงจาก กระทรวงเกษตรฯ ไปยังกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอื่นๆ ของรัฐบาล เพื่อผลักดัน พืชผักผลไม้ เมื่อผลิต บริโภคภายในประเทศ แล้วจะต้องผลักดัน ส่งออกไปขายเพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้อยู่ดีกินดี มาร่วมกัน เป็น young smart farmer ช่วยกันประดิษฐ์ และประยุกต์ใช้นวัตกรรมสู่ความสำเสร็จในอาชีพเกษตรกร เพิ่มสร้างมูลค่าสินค้าเกษตร มีกำไรมากขึ้น เพื่อความอยู่ดีกินดี สร้างชาติ ให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ด้านนายกสมาคมฯ ตอบรับและจะประชุมกับคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เพื่อส่งเสริมระบบสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม Startup เกษตรอัจฉริยะ ที่มุ่งการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ใช้ เช่นที่เรียก Precision Agriculture and Predictive Data Analytics โดยการทำงานมีการนำข้อมูลอดีตและปัจจุบันมาช่วยพยากรณ์อนาคต เช่น ประเมิน อุปสงค์ อุปทานในตลาด ทำให้ตัดสินใจลงทุนได้สอดรับกัน ช่วยแก้ปัญหาการผลิตออกมามากเกินจนต้องมาลดราคาขาย การตลาดให้ครบวงจร จะวิเคราะห์ไล่ตาม Value Chain เพื่อดูว่ามีช่องว่างเพื่อเติมเต็ม สร้างมูลค่าเพิ่ม หรือแม้แต่เกิดโมเดลการทำธุรกิจชนิดใหม่อย่างไรได้บ้าง เช่น การบูรณาการเทคโนโลยีสารสนเทศ และชีวภาพ เชื่อมเข้า การเกษตรที่ทันสมัยต่างๆ เข้ากับเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก เพิ่มผลผลิต และเพิ่มคุณภาพของผลิตผล

ขณะเดียวกัน จำนวนประชากรที่สูงขึ้น ชุมชนเมืองที่ขยายตัว พื้นที่เพาะปลูกที่ลดลง สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงจากปัญหาโลกร้อน รวมทั้งความต้องการผลิตผลเกษตรเพื่อแปลงเป็นพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรรมแบบดั้งเดิม ยิ่งไม่สามารถให้ผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการได้ เพราะฉะนั้น นวัตกรรมถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในการเพิ่มผลผลิตและสร้างคุณภาพในการทำการเกษตรในยุคปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่จะให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม เช่น สร้างนวัตกรรมและเครื่องมือทางการเกษตรในราคาที่เข้าถึงได้เพื่อลดต้นทุนการผลิต จัดพื้นที่การเกษตรให้สอดคล้องกับระบบบริหาร จัดการน้ำและคุณภาพของดินตาม Agri-Map เป็นต้น

ขณะที่น.ส.สุดทิดา อะนุสิน ทูตสมาคมนักประดิษฐ์ฯ กิจการด้าน อาเซียน (AEC) ระบุว่า ปัญหาทางการเกษตรในปัจจุบัน ถือเป็นปัญหาระดับโลก เพราะฉะนั้นการที่ได้พบปะกับที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ ซึ่งเป็นผู้คลุกคลีกับการทำงานด้านนี้มาตลอดนั้น ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่จะได้นำข้อแนะนำมาปรับใช้ในโอกาสต่อไป รวมทั้งถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทางสมาคมนักประดิษฐ์ ฯ ได้ให้โอกาสตนเอง ได้เข้ามาเป็นทูตแอมบาสเดอร์ของทางสมาคมฯ เพื่อเผยแพร่ความรู้ นวัตกรรมและความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ให้กับทั้งชาวไทย ชาวลาว และประชาคมอาเซียน เพื่อให้เกิดการค้าขายแลกเปลี่ยนส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อให้ก้าวทันความก้าวหน้าของประชาคมโลกด้วย.

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก : https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1639046

สมาคมนักประดิษฐ์ฯ ต้อนรับ “ด.ช.ธนากร” กลับมาจากการสร้างชื่อเสียงในการประดิษฐ์หุ่นยนต์คัดแยกขยะ พร้อมมอบสิทธิ์เป็นสมาชิกสมาคมฯ ตลอดสถานะเยาวชน

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย นำโดย นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยนายพลสิทธิ์ พงศ์พัฒนะกิจ โฆษกฯ และคณะกรรมการสมาคม ได้จัดการต้อนรับ ด.ช.ธนากร จั้นอรัญ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดพิชัยญาติ ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ในการเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการแข่งขันรายการหุ่นยนต์ยุวชนนานาชาติ International Robot Competition (IYRC2019) ระหว่างวันที่ 1-4 สิงหาคม 2562 ณ เมืองแทจอน สาธารณรัฐเกาหลีใต้ พร้อมกับเด็กนักเรียนและผู้ควบคุมทีมจากโรงเรียนอื่นๆ ที่เข้าร่วมแข่งขันในรายการเดียวกัน โดยมีประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

โดยนายภณวัชร์นันท์กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จที่ ด.ช.ธนากร ได้รับในครั้งนี้ ซึ่งสิ่งที่ ด.ช.ธนากร ประดิษฐ์ขึ้นมานั้น เป็นหุ่นยนต์คัดแยกขยะ ซึ่งถือเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากถึงแม้ว่าหลายประเทศจัดการกับปัญหาขยะด้วยการรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันคัดแยกขยะ เช่น พลาสติก กระป๋อง กระดาษ ฯลฯ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลผลิตออกมาใช้ใหม่ แต่ก็มีคนที่เห็นด้วยและปฏิบัติตามแนวคิดดังกล่าวไม่มากพอ รวมถึง การขาดจิตสำนึกของคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาที่เป็นภัยคุกคามระดับโลก ดังนั้น การที่มีสิ่งประดิษฐ์ที่มาจากความคิดและจิตสำนึกของเด็กไทยที่มีความห่วงใยในปัญหาของโลกนั้น ถือเป็นเรื่องที่คนในสังคมควรให้ความสำคัญและสนับสนุนให้สิ่งประดิษฐ์เล็กๆ เหล่านี้ อำนวยประโยชน์ให้กับมนุษย์และสังคมโลกในอนาคตอันใกล้

“ผมขอแสดงความยินดีกับ ด.ช.ธนากร ที่ได้รับรางวัลการประดิษฐ์หุ่นยนต์ในครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเด็กไทยในระดับโลกอีกครั้ง ทั้งนี้ เรามีหุ่นยนต์หลากหลายแบบที่สามารถช่วยให้มนุษย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ปัญหาขยะลดลงได้นั้นก็คือ จิตสำนึกของแต่ละคน ที่จะสามารถทำให้ปัญหานี้ลดลงได้ เช่น การคิดก่อนทิ้ง การนำขยะบางประเภทกลับมาใช้ใหม่ การคัดแยกขยะเป็นประเภทๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ เป็นต้น” นายภณวัชร์นันท์กล่าว

ด้านนายพลสิทธิ์ โฆษกสมาคมฯ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ มีนโยบายที่จะสนับสนุนเด็กและเยาวชนไทยที่มีความสามารถในด้านการประดิษฐ์เพื่อสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เป็นต้นแบบ เพื่อพัฒนาสิ่งประดิษฐ์เหล่านั้น ให้ใช้งานได้จริง เป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาของมนุษย์ ดังนั้น สิ่งที่ทางสมาคมฯ จะมอบให้ ด.ช.ธนากร นอกจากจะมอบดอกไม้ มอบเสื้อ Creative Youngter เพื่อแสดงความยินดีแล้ว ทางสมาคมฯ ก็จะมอบสิทธิการเป็นสมาชิกสมาคมโดยอัตโนมัติตลอดสถานะการเป็นเยาวชนด้วย

ขอบคุณภาพและข่าวจาก
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000074164

‘ภณวัชร์นันท์’ยินดี’คุณหญิงกัลยา’นั่งรมช.ศธ. แนะพัฒนาเด็กมีความสามารถสร้างนวัตกรรม

‘นายกฯนักประดิษฐ์’ มอบดอกไม้แสดงความยินดี ‘คุณหญิงกัลยา’ นั่ง รมช. ศธ. แนะพัฒนาเด็กมีความสามารถสร้างนวัตกรรม พร้อมทั้ง มีจิตใจที่ดีและมีจิตอาสาเพื่อสาธารณะ

24 กรกฎาคม 2562 ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งได้มีการเสนอแนะและให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับนโยบายการศึกษาเพื่อพัฒนาให้เด็กและเยาวชนมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม พร้อมทั้ง มีจิตใจที่เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมและมีจิตอาสาเพื่อสาธารณะด้วย

โดยนายภณวัชร์นันท์ กล่าวว่า ตนเห็นว่า การที่คุณหญิงกัลยา เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ปัจจุบันเป็น อว.)และมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการนั้น ถือเป็นบุคคลที่เหมาะสมกับงาน เพราะเนื่องจากบุคลิกของคุณหญิงกัลยา ที่เปี่ยมไปด้วยคุณลักษณะและจิตวิญญาณ ของความเป็นครู และยังมีความรู้ด้านเทคโนโลยี ใหม่ๆ จะสามารถผลักดันให้งานการศึกษาของไทย มีความก้าวหน้าในหลายๆด้าน โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่คุณหญิงกัลยามีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเป็นที่ประจักษ์ในวงกว้าง และจะสร้างแรงบันดาลใจ ให้เด็กและเยาวชน หันมาสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ และยังสร้างธุรกิจให้ครอบครัวได้แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ได้เป็นอย่างดี

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวต่อว่า ตนได้มีข้อเสนอที่จะช่วยให้พัฒนาเด็กและเยาวชนไทย ให้มีศักยภาพในการสร้างสรรค์ ในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันและแก้ปัญหาในระดับสาธารณะ เช่น อาจจะมีการสอดแทรกเนื้อหาการประดิษฐ์หรือการทดลองที่เกี่ยวข้องกับการสร้างนวัตกรรม ตั้งแต่ ป.1 โดยค่อยๆ ไต่ ระดับเนื้อหาเรื่อยๆ จนสามารถให้เป็นเนื้อหาพื้นฐานที่ทำให้เด็กนักเรียนสามารถพัฒนาต่อยอดได้ แต่อย่างไรก็ตาม เด็กและเยาวชนไทยจะต้องได้รับการพัฒนาทางด้านจิตใจควบคู่ไปด้วย ดังนั้น จึงอยากจะให้ทางกระทรวงฯ จัดเนื้อหาและกิจกรรม Camp Invention เข้าค่าย ฝึกประดิษฐ์ นวัตกรรมขั้นพื้นฐาน และพัฒนา ทั้งในด้านการศาสนา และจิตอาสา เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรม ให้กับเด็กและเยาวชน รวมทั้ง ขอให้ทางกระทรวงฯ

“เร่งผลักดันพื้นที่ที่ศักยภาพในการด้านศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ตามพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 ต่อจากพื้นที่ที่มีการนำร่องไปแล้ว 6 จังหวัด คือ ระยอง ศรีสะเกษ สตูล เชียงใหม่ กาญจนบุรี และปัตตานี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนาการเรียนการสอนโดยให้ทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่มีศักยภาพ มีส่วนร่วม โดยส่วนกลางทำหน้าที่ดูข้อจำกัดต่างๆ บางส่วนเท่านั้น เช่น งบประมาณ หรือการบริหารงานบุคคล เป็นต้น ซึ่งจะก่อประโยชน์ให้ มีการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษา และการเรียนรู้ เป็นไปโดยเหมาะสมสอดคล้องกับ สภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งขยายผลไปใช้ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งอื่น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำใน การศึกษา รวมทั้ง ถือเป็นการกระจายอำนาจและให้อิสระแก่หน่วยงานทางการศึกษาและสถานศึกษา น้าไปสู่การยกระดับการจัดการศึกษาของประเทศอันเป็นรากฐาน สำคัญของการพัฒนาคนไทยให้มีคุณภาพต่อไปด้วย”นายภณวัชร์นันท์ กล่าว

ด้านคุณหญิงกัลยา ระบุว่า จะรับข้อเสนอของดังกล่าวไว้ ซึ่งการมาดำรงตำแหน่งของตนในฐานะที่ตนอยู่ในแวดวงการศึกษามานานนั้น มองปัญหาออกได้เป็น 3 เรื่องใหญ่ เช่น ปัญหาของเด็กนักเรียน ที่นอกจากปัญหาการขาดแคลนทุนทรัพย์แล้ว ยังพบกับปัญหาในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะต้องให้ผู้ปกครองและครูเข้ามาดูแลและให้คำแนะนำที่เหมาะสม ปัญหาของครูผู้สอน ที่เป็นปัญหาหลักๆ และอยู่ในความสนใจของประชาชนก็คือ ปัญหาหนี้สินครู เพราะหากครูยังมีหนี้สินรกรุงรังนั้น ก็จะไม่สามารถทุ่มเทความคิดและสติปัญญาในการสอนได้ โดยอาจจะมีการปรึกษาหารือกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และธนาคารพาณิชย์ ในการแก้ไขปัญหา และปัญหาความคาดหวังของผู้ปกครองและประชาชนที่หวังว่าการศึกษาของประเทศไทย มีความทัดเทียมกับนานาประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการสร้างสรรค์นวัตกรรมนั้น ก่อนเรียนต้องมีสมาธิ หลังเรียน แร็พอางคยางปลดปล่อย เด็กจะมีความสุข จะต้องมีความร่วมมือกับทางกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อร่วมกันทำหลักสูตรเพื่อพัฒนาให้เด็ก เยาวชน และคนไทยมีความรู้ในเรื่องของการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อก้าวไปสู่มนุษย์ในยุคศตวรรษที่ 21 ได้อย่างสมบูรณ์ โดยที่จะต้องไม่ละทิ้งสิ่งดีๆ ที่เคยมีในวงการการศึกษาของไทยด้วย

ขอบคุณภาพและข่าว จาก
https://www.naewna.com/local/428548

สมาคมนักประดิษฐฯ ร่วมถวายพระพรร.10 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย นาย อินทัช โล่อุทัย พร้อมคณะกรรมการสมาคมฯ ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา 28 กรกฎาคม 2562 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะการปลูกฝังให้ประชาชน มีจิตอาสาและปฏิบัติตนเพื่อประโยชน์สาธารณะ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน

ขอบคุณภาพและข่าวจาก
http://www.lokwannee.com/web2013/?p=369360

นายกนักประดิษฐ์ฯ แนะ บรรจุเนื้อหาหนังสือลงในแอปพลิเคชั่น แก้เด็กแบกกระเป๋าหนัก

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่มีนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น กระดูกสันหลังคด เนื่องจากสะพายกระเป๋าหนักจนเกินไปว่า จากกรณีดังกล่าว ตนก็ได้ทราบคำเตือนของแพทย์มาก่อนหน้านี้ว่า การสะพายกระเป๋านักเรียนหนักๆ ส่งผลกระทบต่อหมอนรองกระดูกสันหลังของเด็ก และอนาคตเป็นโรคเรื้อรัง ใครจะรับผิดชอบพวกเขา ดังนั้น หากต้องสะพายกระเป๋าหนัก ๆ ไปโรงเรียนทุกวัน อาจมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และทรมาณ ปัจจุบันได้มีประชาชน ร้องเรียนที่สมาคมฯ เป็นจำนวนมาก บางราย บอกว่า ลูกเจ็บ หลังเมื่อไปหาหมอ หมอแจ้งว่าสายไปแล้ว “กระดูกหลังคดแล้ว”จึงถามผู้มีอำนาจว่า ถ้าเป็นลูกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา หรือ กระทรวงสาธารณสุข จะรู้สึกอย่างไรบ้าง คงจะเจ็บปวดและเครียดใช่หรือไม่

ดังนั้น จึงถือว่าเป็นประเด็นที่สำคัญที่คนในสังคมควรให้ความสนใจมาก ห้ามปล่อยผ่านเด็ดขาดปัจจุบัน กระทรวงศึกษาประเทศมาเลเซียได้ยกเลิก ครูใช้เด็กแบกกระเป๋าหนังสือและให้ใช้ Digital Textbook แทนที่จะแบกหนังสือไปโรงเรียนหนักๆ 20 กิโลกรัมไปกลับโรงเรียน

“ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวผมจึงอยากเสนอให้ มีการบรรจุเนื้อหาหนังสือลงเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออินเตอร์เนต หรือ สร้างแอปพลิเคชั่น อัพโหลดโทรศัพท์มือถือส่งสัญญานผ่านไปยังทีวี สอนนักเรียน และให้ผู้ปกครองตรวจสอบการสอนวิชาได้ด้วยเพื่อช่วยติวการบ้านให้บุตรหลาน และ แบ่งเบาภาระของเด็กนักเรียนที่จะต้องแบกหนังสือใส่กระเป๋าไปโรงเรียนทุกๆวัน หากจำเป็นจะต้องมีหนังสือเรียนไว้สำหรับอ้างอิงแล้วก็สามารถที่จะสั่งพิมพ์ไว้เป็นคราวๆ สำหรับห้องสมุด เพื่อเก็บรักษาไว้ก็ได้ กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ต้องเข้ามาดูแล ต้องพูดคุยกัน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างหนังสือที่เด็กจะต้องได้เรียนและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเพื่อพร้อมที่จะพัฒนาประเทศในอนาคต” นายภณวัชร์นันท์กล่าว

ขอบคุณภาพและข่าวจาก
https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99/107619

นายกฯนักประดิษฐ์ ยินดี ‘สุริยะ’ นั่ง ก.อุตสาหกรรม

นายกฯนักประดิษฐ์ มอบดอกไม้แสดงความยินดี ‘สุริยะ’ นั่ง ก.อุตสาหกรรม – ชี้เป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากวงการฯ มาอย่างยาวนาน และสนใจเรื่องนวัตกรรมโดยตลอด

วันที่ 19 ก.ค. 62 – นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย เข้าพบปะหารือและมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ นายภณวัชร์นันท์ กล่าวภายหลังการเข้าพบนายสุริยะ ว่า ตนได้มอบดอกไม้แสดงความยินดีกับการได้รับตำแหน่งของนายสุริยะ และถือโอกาสนี้มอบข้อเสนอแนะไปยังทางกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ทางกระทรวงฯ ได้ผลักดันส่งเสริมและสนับสนุนโรงงานหรือสถานประกอบการที่ผลิตสิ่งประดิษฐ์เพื่อรองรับนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยสมาคมฯ ได้เน้นย้ำว่า อยากให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมซึ่งมีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ มาส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่อให้มีสมรรถนะ และขีดความสามารถในการประกอบการที่เป็นเลิศและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกนั้น มาช่วยกันเป็นอีกแรงสนับสนุน เพื่อให้โรงงานผู้ประกอบการสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมนั้น สามารถพัฒนาเพื่อให้ผู้ประกอบการฯ ผลิตสิ่งประดิษฐ์และงานนวัตกรรม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับทั้งในมาตรฐานอุตสาหกรรม และสร้างชื่อบนเวทีโลกได้

“การพบนายสุริยะ นอกจากแสดงความยินดีที่ได้รับตำแหน่งฯ แล้ว ทางสมาคมฯ ก็ถือโอกาสนี้มอบข้อเสนอแนะไปยังท่านรัฐมนตรีฯ ด้วย เพราะชื่อของนายสุริยะ เป็นที่ได้รับการยอมรับในวงการอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน และเป็นผู้สนใจในสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่ๆ อีกด้วย ดังนั้น ทางสมาคมฯ เชื่อว่างานด้านพัฒนาโรงงานสำหรับการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมนั้น จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะได้คนที่ไดัการรับการยอมรับในวงการ และมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนวัตกรรมมาบริหารกระทรวงแห่งนี้” นายภณวัชร์นันท์ กล่าว.

ขอบคุณข่าวจาก . http://www.komchadluek.net/news/regional/380260

นายกนักประดิษฐ์ ปลื้ม วช.หนุนงานวิจัย เตรียมนวัตกรรมคนไทยเผยแพร่

นายกนักประดิษฐ์ ปลื้มถือเป็นเกียรติที่ทางสำนักงานการวิจัยแห่งชาติพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อพัฒนาด้านนวัตกรรม เผยเตรียมนำข้อมูล “บนหิ้ง” ปัดฝุ่นเพื่อทำสิ่งที่คนไทยได้ประโยชน์ หวังให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทยกล่าวถึงการเข้าร่วมในกิจกรรม Open House เปิดบ้าน วช. 5 G : Change For The Future ซึ่งจัดโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่า ต้องขอขอบคุณทาง วช. ที่ให้เกียรติทางสมาคมฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพราะถือเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของทาง วช. ใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ การที่ วช.จะมีการพลิกโฉมหรือปรับบทบาทอย่างไรเมื่อเทคโนโลยี 5G กำลังมีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิต เพราะเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อกันว่ามีความทรงพลังที่สุด โดยจะเปลี่ยนโลกทั้งใบให้เชื่อมต่อกันในทุกสรรพสิ่ง โดยความเร็วเพิ่มขึ้นกว่าระบบ 4G ถึง 10 เท่า มีความหน่วงลดลง 5 เท่า และสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายและสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นถึง 1,000 เท่า ดังนั้น 5G จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ช่วยบริหารจัดการทรัพยากร ระบบอุตสาหกรรม

ทั้งในส่วนของรัฐบาลและเอกชนที่จะประหยัดงบประมาณแต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้บางภาคส่วนของประเทศไทยกำลังใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการพัฒนาประเทศให้มีความทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ของโลก และประเด็นที่ 2 ก็คือ การปรับองค์กรให้เข้ากับบทบาทหน้าที่ของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เนื่องจากอำนาจหน้าที่ที่สำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริม สนับสนุน และกำกับการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ การวิจัย และการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อการพัฒนาประเทศให้เท่าทันกับการเปลื่ยนแปลงของโลกนั้น ทาง วช.ที่เป็นกลไกสำคัญที่จะต้องยกระดับทั้งตัวองค์กร บทบาทหน้าที่ รวมทั้งบุคลากร เพื่อที่จะทำให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจ และใช้นวัตกรรมให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์เป็นประโยชน์มากที่สุด

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวอีกว่า สำหรับความร่วมมือในเรื่องข้อมูลการวิจัยระหว่างทาง วช.กับสมาคมฯ นั้น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยจะนำผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ทางสมาคมฯ นำไปใช้พัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างสรรค์เป็นสิ่งประดิษฐ์ในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน โดยเชื่อว่าข้อมูลที่ได้มีการวิจัยและเก็บไว้ที่สำนักงาน วช.นั้นยังมีอีกมากที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ออกมาเป็นรูปธรรม ดังนั้นตนในฐานะนายกสมาคมฯ จึงเห็นว่าเจ้าของงานวิจัยเดิมควรมีโอกาสได้นำผลการวิจัยมาขอทุนและต่อยอดเป็น ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดนวัตกรรม เพื่อให้มีผลงานด้านนวัตกรรมเป็นที่ปรากฏต่อสาธารณชน และต่อยอดเป็นผลงานมาสเตอร์พีซในเวทีระดับโลกอีกด้วย รวมทั้งในความร่วมมือด้านอื่นๆ ก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทาง วช.จะเชิญทางสมาคมฯ เข้ามาเป็นกรรมการในโครงการการประกวดงานวิจัย งานประดิษฐ์นวัตกรรม และร่วมกิจกรรมอื่นๆ ที่ทาง วช.ได้จัดขึ้น ซึ่งถือเป็นความร่วมมือเพื่อที่จะสร้างสรรค์ให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาสิ่งประดิษฐ์และสร้างนวัตกรรมชั้นแนวหน้าของโลก

“ผมเห็นว่าในวันนี้ทาง วช.ได้มีงานวิจัยซึ่งผ่านกระบวนการทดสอบทดลองวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ มาเป็นเอกสาร โดยใช้งบประมาณวิจัยมากกว่า 1,000 ล้านบาท และมีงานวิจัยที่สะสมมากมายตั้งแต่อดีตแต่ยังขาดสิ่งจะที่ต่อยอดให้เป็นนวัตกรรมเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเข้าสู่เชิงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมได้จริงๆ รวมทั้งการส่งเสริมสิ่งประดิษฐ์ให้พัฒนาเป็นนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ เพื่อใช้งานแก้ปัญหาให้ตรงจุดตามจิตนาการของนักประดิษฐ์ ดังนั้น วช.เปรียบเสมือนต้นน้ำและความหวังของผู้ที่มีสิ่งประดิษฐ์กำลังพัฒนาเข้าสู่เชิงพาณิชย์สร้างนวัตกรรมใหม่ ซึ่งทุกคนจะต้องมีช่องทางที่จะขอทุนไปยัง วช.ได้ง่ายเพื่อพัฒนางานวิจัยให้เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อพัฒนาเข้าสู่เชิงพาณิชย์ อีกทั้งจะต้องส่งเสริมให้เยาวชนมีธุรกิจมีงานทำมีอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวอีกด้วย ส่วนข้าราชการทุกระดับจะต้องโฟกัส และส่งเสริมสนับสนุน ประยุกต์ใช้งานเพื่อให้คนไทยหันมาใช้นวัตกรรมไทยและพัฒนาส่งออกไปยังต่างประเทศ เริ่มจากรัฐจะต้องสร้างคนให้มีทุน เสริมทุนให้เขามีทุนส่งเสริมความสามารถให้คนในชาติ จึงจะเพิ่มทุนให้กับประเทศชาติได้ จุดเหล่านี้ต่างหากที่จะทำให้ชาติไทยของเราเจริญรุ่งเรือง เกิดความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน” นายภณวัชร์นันท์ กล่าว.

 

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1607768

‘นายกนักประดิษฐ์ฯ’แนะตร.เร่งฟื้นความเชื่อมั่น ปมลอบทำร้ายผู้เห็นต่างทางการเมือง

“นายกนักประดิษฐ์ฯ” ห่วง บางกลุ่มนำประเด็นลอบทำร้ายผู้เห็นต่างการเมืองสร้างความวุ่นวาย แนะ ตร.เร่งฟื้นความเชื่อมั่น

30 มิ.ย.62 นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการลอบทำร้ายนักกิจกรรมทางการเมือง จนมีอาการสาหัสว่า ตนเห็นว่า กรณีนี้อยากให้สังคมไทย ตั้งสติก่อนว่า ความแตกต่างทางความคิด ไม่ได้เป็นเหตุให้ใครจะต้องมาจบชีวิตไม่ว่าใครจะมีความเชื่อทางการเมืองอย่างไรก็ตาม แต่ทั้งนี้ ตนอยากให้ หันมาพิจารณาบุคคลที่เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องชีวิตของบุคคลอื่นๆ เพื่อปกป้องสาธารณภัยต่างๆ หรือเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ เพราะชีวิตของเขา ถือเป็นแบบอย่างของความกล้าหาญ ความเสียสละ ที่เด็ก เยาวชนไทย หรือแม้แต่คนไทย ควรเอาแบบอย่าง และรัฐควรส่งเสริมให้ความสำคัญในความกล้าหาญทำความดีของพวกเขาเหล่านั้นถือเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนควรส่งเสริมและเน้นย้ำอย่างต่อเนื่อง

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ผู้ที่ไขคำตอบได้ดีที่สุดน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะทุกฝ่ายกำลังจับตามองว่า การดำเนินงานเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดนั้น หากล่าช้าไปจะมีคนบางกลุ่มบางฝ่ายหยิบเอามาเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อนำมาปลุกปั่นเคลื่อนไหว สร้างความไม่สบายใจแก่คนไทยทั้งประเทศ รวมทั้ง ควรนำกรณีนี้มาขยายผลเพื่อสาวให้ถึงตัวการสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแก็งค์ทวงหนี้ ที่มีที่อยู่ในละแวกนั้น หรือ บุคคลใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งกับผู้ประสบเหตุ ก็ช่วยทำให้ทุกๆฝ่ายมีความสบายใจ และมีความเชื่อมั่นต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากขึ้น

‘ที่ผ่านมา เราพบบรรดาผู้ที่ทำงานทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ต่างถูกลอบทำร้ายและบางรายถึงกับเสียชีวิต โดยส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ ทำให้สังคมไทยเกิดความกังขาถึงประสิทธิภาพในการทำงานของตำรวจ ดังนั้น จึงอยากให้ใช้โอกาสนี้ ฟื้นความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจคืนมา เพราะถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว สังคมก็ยังจะมีความน่าสงสัย และจะทำให้คนบางกลุ่มนำเรื่องนี้ไปปลุกระดมจนสร้างความวุ่นวายได้ ” นายภณวัชร์นันท์กล่าว

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/423310/preview

นายกนักประดิษฐ์ เตือน AI กำลังพัฒนาให้มีความสามารถเกินมนุษย์

“นายกนักประดิษฐ์” เตือน AI กำลังจะพัฒนาให้มีความสามารถ “เกินกว่ามนุษย์” วอนหาวิธีการควบคุมก่อนจะเกิด “นักฆ่าแห่ง AI” ทำลายชีวิตมนุษย์เป็นจำนวนมาก 

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึงประเด็นการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตมนุษย์ว่า ปัญญาประดิษฐ์ คือการสร้างความฉลาดให้กับสิ่งไม่มีชีวิต เพื่อให้สามารถคิด ทำงาน และเรียนรู้ได้เอง โดยมีจุดประสงค์หลักก็ทำเพื่อให้มันสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ ซึ่งมีการแบ่งหรือจำแนก AI ออกมาเป็น 3 แบบ คือ Weak AI ซึ่งเป็น AI ที่มีระดับระดับสติปัญญาที่มีความสามารถในการทำงานได้ในเรื่องแคบๆ อยู่ในวงจำกัด เรื่องใดเรื่องหนึ่ง Strong AI ซึ่งมีสติปัญญาเทียบเท่ามนุษย์ โดยจะมีความสามารถในการเรียนรู้ วางแผน การแก้ปัญหา รู้จักคิดในเชิงนามธรรม มีความคิดที่สลับซับซ้อน และระดับ ซุปเปอร์ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งจะฉลาดและมีปัญญามากกว่าสมองมนุษย์ที่ดีที่สุดในทุกๆ ด้าน รวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ในทางวิทยาศาสตร์ เรื่องทั่วๆ ไปแม้กระทั่งความสามารถในการเข้าสังคม

ซึ่ง AI 2 แบบหลังนี้ ตนเห็นว่าจะสร้างปัญหาให้กับมนุษย์โดยส่วนรวม เนื่องจากขณะนี้ระบบปัญญาประดิษฐ์เริ่มพัฒนาไปไกลถึงขนาดที่ว่า มีการประดิษฐ์หุ่นยนต์ AI และพูดคุยกับระบบปัญญาประดิษฐ์ด้วยกันเอง เข้าใจกันเอง โดยที่ใช้ภาษาที่ประดิษฐ์ขึ้นมากันเอง เพราะจากเดิมที่มนุษย์เป็นคนสอน AI ตอนนี้ AI ก็สอนก็เรียนรู้กันเองได้ และในอนาคต AI อาจจะเก่งถึงขั้นมีจินตนาการและมีความรู้สึกนึกคิดได้เหมือนมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กระทบกับคนไทยไร้ฝีมือแรงงาน มีความสามารถน้อยกว่า AI จะต้องตกงานอีกมากในอนาคตอันใกล้นี้

“ต้องยอมรับว่าระบบ AI สร้างประโยชน์ให้กับมวลมนุษย์ไม่น้อย หลายอุตสาหกรรมใหญ่ในโลกต้องพึ่งพาระบบ AI ทั้งนี้ สตีเฟน ฮอว์กกิ้ง นักวิทยาศาสตร์ของโลก เคยคาดการณ์ไว้ว่าวันหนึ่งในอนาคต หรือ AI จะเข้ามามีบทบาทกับคนทั้งโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมันคือสิ่งประดิษฐ์ที่สุดยอดที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ แต่เมื่อถึงยุคนึงมนุษยชาติอาจจะถึงจุดจบ เหตุผลเพราะเมื่อ AI เหล่านี้ถูกพัฒนาไปจนถึงขีดสุด มันจะไม่ต้องพึ่งพามนุษย์อีกต่อไป ซึ่งจะถือเป็นอันตรายที่ยิ่งใหญ่กว่าผลกระทบจากอาวุธนิวเคลียร์ ดังเช่น อีลอน มัสก์ นักประดิษฐ์นวัตกรรมชื่อก้องโลกได้กล่าวเอาไว้” นายภณวัชร์นันท์ กล่าว

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวด้วยว่า หากปล่อยให้มันพัฒนาภาษาของตัวเองขึ้นเรื่อยๆ จนมนุษย์ไม่อาจเข้าใจได้ อาจนำไปสู่จุดที่มันจะขัดคำสั่งมนุษย์ได้ในที่สุด และเกิดการทำร้ายมนุษย์ เพราะเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้ในการทำงาน ไม่ได้มีการใส่จิตใจลงไปในนั้น สิ่งเหล่านี้มีหลายชาติยังมีการพัฒนาต่อเนื่อง และประเทศของเราผู้บริหารระดับสูงยังไม่ศึกษาแต่กลับกลัวว่าตนเองไม่ทันสมัย เพราะฉะนั้นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด แม้แต่มนุษย์ด้วยกันยังควบคุมกันเองไม่ได้ แล้วมนุษย์จะควบคุมหุ่นยนต์อัจฉริยะได้อย่างไร

“เหรียญมี 2 ด้าน ปัญญาประดิษฐ์ก็เหมือนกัน ซึ่งอาจพัฒนาความรู้แบบก้าวกระโดดสามารถสร้างคุณประโยชน์มหาศาลให้แก่มวลมนุษยชาติ หรืออาจเป็นภัยที่คุกคามสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ เพราะฉะนั้นมนุษย์เราน่าจะเรียนรู้ ปรับตัว มีการระดมความคิดจากภาคส่วนต่างๆ ทั่วโลก เพื่อควบคุม วางแผน และออกแบบให้มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันกับ AI ได้อย่างสมดุลและสร้างสรรค์ แล้วนำความรู้ต่างๆ ที่เกิดจากพัฒนาการความารถของ AI กลับมาสร้างคุณประโยชน์ให้แก่มวลมนุษย์เอง ดังนั้นผมอยากให้มอง AI เป็นเครื่องมือที่ทันสมัยที่มาพร้อมกับอันตราย เนื่องจากวันนี้ AI คือหุ่นยนต์ยังไม่มีความอยากเป็นของตัวเอง แค่ปฏิบัติตามคำสั่งของมนุษย์ แต่ถ้าวันหนึ่งมนุษย์สามารถพัฒนาหุ่นยนต์ให้สามารถมีอารมณ์และความอยากทำลายล้างมนุษย์ มันก็อาจจะเป็นภัยร้ายของเราก็ได้ สำหรับประเทศไทย ควรมีกฎหมายห้ามพัฒนาหุ่นยนต์เพชฌฆาต และการพัฒนาควรมีกฎหมายควบคุมไม่ใช่ปล่อยอิสระ เพราะหากการพัฒนาและเกิดความผิดพลาด นักฆ่าแห่ง AI จะปรากฏตัวขึ้นพร้อมความตายที่มีจำนวนมาก” นายภณวัชร์นันท์ กล่าว.

ขอบคุณข่าวจาก https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1576361

‘นายกสมาคมนักประดิษฐ์ฯ’ แนะอย่าใช้เกณฑ์ของต่างชาติ มากีดกันผลงานนักประดิษฐ์ไทย

นายกสมาคมนักประดิษฐ์ฯ’ แนะอย่าใช้เกณฑ์ของต่างชาติ มากีดกันผลงานนักประดิษฐ์ไทย – ชี้ หน่วยงานของรัฐ ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย ในการนำนวัตกรรมไปสู่ระดับโลก และพัฒนาธุรกิจภายในประเทศ เพื่อก้าวให้พ้น ‘กับดักรายได้ปานกลาง’

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทยและ นักประดิษฐ์ 5 เหรียญทองอัจฉริยะโลก กล่าวถึงปัญหาการใช้มาตรฐานของต่างประเทศ มากีดกันผลงานของนักประดิษฐ์ไทยว่า อย่าเอามาตรฐานต่างชาติ มาบีบกดสิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมของชาติไทย เพราะ เราสร้างนวัตกรรมใหม่ สร้างขึ้นเพื่อเกิดมาตรฐานใหม่ๆ เพราะเหล่านักประดิษฐ์ และนักพัฒนานวัตกรรม พวกเขาคิดค้นมาจากความพยายามและการต่อยอดมาจากสิ่งประดิษฐ์เดิม ที่ผ่านการทดสอบทดลองมาหลายครั้ง จนสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆที่เกิดขึ้น ประสบความสำเร็จและใช้งานได้จริง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น สร้างงาน สร้างธุรกิจ สร้างความมั่นคงให้กับประชาชน และแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ในด้านศิลปะ และนโยบายของรัฐ ในเชิงเศรษฐศาสตร์ด้วย
“การเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเพิ่มมูลค่าเป้าหมายของนวัตกรรมคือการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงในเชิงลบ สินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ นั้น พวกเราพัฒนามาจาก สินค้าเก่า เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก เปลี่ยนแปลงทั้งความเป็นอยู่ การสร้างอาคารบ้านเรือน จากป่าสู่เมือง และเป็นมหานคร จากกาต้มน้ำร้อนใช้เตาถ่านกลายมาเป็นกาต้มนำร้อนอัตโนมัติ แน่นอนที่สุด การสร้างนวัตกรรมสินค้า กาต้มน้ำร้อนอัตโนมัติ จะต้องสร้างมาตรฐานทดสอบสินค้าใหม่ เพื่อให้มีมาตรฐาน มาทดสอบ ให้สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้มีการรับรองว่า สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่เหล่านั้นใช้งานได้จริงและแก้ปัญหางานได้จริง” นายภณวัชร์นันท์กล่าว

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ทางคณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ต้องมีหน้าที่ในการสนับสนุนและส่งเสริมการนำผลงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมไทยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยจะต้องมอบหมายให้ ห้องทดสอบโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หรือ กรมวิทยาศาสตร์ บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ทำการรายงานและสร้างคู่มือทดสอบให้ ความสามารถของ และออกรายงาน และขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย เพื่อส่งมอบให้ สำนักงบประมาณและให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างและประยุกต์ใช้ในกิจการของรัฐ อย่าอ้างว่าไม่มีมาตรฐาน เพราะคู่มือทดสอบของนวัตกรรมใหม่เหล่านั้นมันคือมาตรฐานใหม่ในอนาคตต่อไป ไม่ใช้นำมาตรฐานเก่าๆอาทิ เช่น UL NFPA หรือ มาตรฐานต่างชาติอื่นๆเพราะสิ่งนั้นมันเป็นนวัตกรรมของคนต่างชาติ ไม่ใช่ของชาติไทย หากหน่วยงานของรัฐ ไม่เชื่อมั่นหน่วยงานของรัฐ แล้วจะให้คนไทยเชื่อมั่นอะไรได้อีก

“การหน่วยงานของรัฐนำมาอ้าง ทั้งที่มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 และมีคำสั่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2560 เวียนไปหน่วยงานราชการทุกกระทรวง ที่ นร.0505/ว 494 และกฎหมายก็ระบุชัดเจนว่า ให้ประยุกต์ใช้นวัตกรรม ให้เกิดประโยชน์ในภารกิจในหน่วยงานของรัฐเพื่อให้เกิดประโยชน์ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 69 ที่บัญญัติว่า รัฐพึงจัดให้มีและส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศิลปวิทยาการแขนงต่างๆ ให้เกิดความรู้ การพัฒนา และนวัตกรรม เพื่อความเข้มแข็งของสังคม และเสริมสร้างความสามารถของคนในชาติ ดังนั้น คณะกรรมการพิจารณาสินค้าที่ผลิตในประเทศ สมอ.สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ก็เช่นกัน ควรให้การสนับสนุน นำผลการทดสอบ นวัตกรรมใหม่ที่ออกโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หรือ กรมวิทยาศาสตร์ บริการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เมื่อมีรายงานผลการทดสอบของหน่วยงานรัฐและกระบวนการผลิตมีการควบคุมคุณภาพโดย ระบบ มาตรฐานคุณภาพระหว่างประเทศ ISO 9001 แล้ว ก็ควรรับจดทะเบียนตามคู่มือทดสอบที่ออกโดยหน่วยงานด้วยกันเอง เพื่อให้ นวัตกรรมใหม่ๆที่คิดโดยคนไทย สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยมีคู่มือทดสอบอ้างอิงเป็นสร้างรายงานทดสอบในการขออนุมัตินำเข้าประเทศอื่น ๆ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกของ WTO เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2537 โดยเป็นสมาชิกลำดับที่ 59 ทำให้ประเทศไทยมีทั้งสิทธิ (Rights) และพันธกรณี (Obligations) ที่จะต้องปฏิบัติตามความตกลงต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงตามความตกลงว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Agreement on Technical Barriers to Trade: TBT) ซึ่งเป็นความตกลงที่จะมิให้ประเทศสมาชิกใช้กฎระเบียบทางวิชาการ (technical regulations) มาตรฐาน (standards) หรือกระบวนการตรวจสอบรับรอง (conformity assessment procedures) มาเป็นอุปสรรคต่อการค้าและอุตสาหกรรม หน่วยงานของรัฐ ควรจะทราบดีกว่า การสร้างนวัตกรรมใหม่ คือ การแก้ปัญหาสินค้าเก่าๆ ที่ใช้งานแล้วมีปัญหา และใช้งบประมาณจำนวนมากแต่นวัตกรรมใหม่ ประหยัดงบประมาณและไม่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศซึ่งมีราคาแพงสิ้นเปลืองงบประมาณ และ ไม่ส่งเสริมความสามารถของคนในชาติ ขัดต่อพรบ.ยุทธศาสตร์ชาติ” นายภณวัชร์นันท์กล่าว

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวอีกด้วยว่า ในเมื่อประเทศไทยต้องการนวัตกรรมเข้ามาช่วยพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ชาติ ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ เปลี่ยนจากการขับเคลื่อนประเทศด้วยภาคอุตสาหกรรมไปสู่การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ด้วยใช้ความคิดและจิตนาการของคนในชาติไทย ที่มีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม มาสร้างผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมและสินค้าใหม่ๆ เพื่อให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ เป็นการสร้างรายได้ของประเทศ ให้ขับเคลื่อนธุรกิจภายในประเทศ และส่งเสริมสินค้านวัตกรรมใหม่ในการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เพื่อต้องการให้ประเทศไทยก้าวข้าม “กับดักรายได้ปานกลาง” ด้วยการทำให้เศรษฐกิจขยายตัว ทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดีมีรายได้เพิ่มขึ้น ตนขอร้องว่า อย่าได้นำมาตรฐานต่างชาติมากดความเจริญรุ่งเรื่องของชาติไทย เพราะคนในชาติไทยเก่งไม่เคยแพ้ใครในโลก

ขอบคุณข่าวจาก https://siamrath.co.th/n/79010

สมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย(IIAT)

สมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรม แห่งประเทศไทย ใช้อักษรย่อว่า สนวก